HTML (Hypertext Markup Language)

หมายเหตุ เอกสารฉบับนี้เป็นเอกสารแปลจากต้นฉบับภาษาอังกฤษอาจมีข้อบกพร่องหรือไม่ทันสมัย
เอกสารต้นฉบับเป็นของ W3C และถือเป็นเอกสารอย่างเป็นทางการ ท่านสามารถอ่านประกอบเพื่อความถูกต้อง
Original Document HTML

HTML คืออะไร?

HTML (Hypertext Markup Language) คือภาษามาร์กอัปที่ใช้สำหรับสร้างเว็บเพจ เป็นมาตรฐานที่ใช้ในการแสดงผลเอกสารบนเว็บเบราว์เซอร์ HTML ประกอบด้วยชุดของแท็ก (tags) ที่ใช้กำหนดโครงสร้างและเนื้อหาของเว็บเพจ

ประวัติของ HTML

HTML ถูกพัฒนาโดย Tim Berners-Lee ในปี 1990 เพื่อใช้ในการแลกเปลี่ยนเอกสารระหว่างนักวิทยาศาสตร์ที่ CERN (องค์การวิจัยนิวเคลียร์ยุโรป) ตั้งแต่นั้นมา HTML ได้มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง:

  • HTML 2.0 (1995)
  • HTML 3.2 (1997)
  • HTML 4.01 (1999)
  • XHTML 1.0 (2000)
  • HTML5 (2014)

โครงสร้างพื้นฐานของเอกสาร HTML

เอกสาร HTML ประกอบด้วยองค์ประกอบพื้นฐานดังนี้:

<!DOCTYPE html>
<html>
<head>
    <meta charset="UTF-8">
    <title>ชื่อเว็บเพจ</title>
</head>
<body>
    <h1>หัวข้อหลัก</h1>
    <p>เนื้อหาย่อหน้า</p>
</body>
</html>

โครงสร้างนี้ประกอบด้วย:

  • <!DOCTYPE html>: ประกาศประเภทของเอกสาร
  • <html>: แท็กรากของเอกสาร HTML
  • <head>: ส่วนหัวของเอกสาร ประกอบด้วยข้อมูลเมตา (metadata)
  • <title>: ชื่อของเว็บเพจที่แสดงบนแท็บของเบราว์เซอร์
  • <body>: ส่วนเนื้อหาของเอกสารที่แสดงผลบนเบราว์เซอร์

แท็ก HTML ที่ใช้บ่อย

แท็กหัวข้อ (Heading Tags)

<h1>หัวข้อระดับ 1</h1>
<h2>หัวข้อระดับ 2</h2>
<h3>หัวข้อระดับ 3</h3>
<h4>หัวข้อระดับ 4</h4>
<h5>หัวข้อระดับ 5</h5>
<h6>หัวข้อระดับ 6</h6>

แท็กข้อความ (Text Tags)

<p>ย่อหน้า</p>
<strong>ข้อความตัวหนา</strong>
<em>ข้อความตัวเอียง</em>
<mark>ข้อความไฮไลท์</mark>
<del>ข้อความที่ถูกลบ</del>
<ins>ข้อความที่ถูกเพิ่ม</ins>
<sub>ข้อความตัวห้อย</sub>
<sup>ข้อความตัวยก</sup>

แท็กลิสต์ (List Tags)

<ul>
    <li>รายการที่ไม่มีลำดับ 1</li>
    <li>รายการที่ไม่มีลำดับ 2</li>
</ul>

<ol>
    <li>รายการที่มีลำดับ 1</li>
    <li>รายการที่มีลำดับ 2</li>
</ol>

<dl>
    <dt>คำศัพท์</dt>
    <dd>คำอธิบาย</dd>
</dl>

แท็กลิงก์และรูปภาพ (Link and Image Tags)

<a href="https://www.example.com">ลิงก์</a>

<img src="image.jpg" alt="คำอธิบายรูปภาพ">

แท็กตาราง (Table Tags)

<table>
    <thead>
        <tr>
            <th>หัวข้อคอลัมน์ 1</th>
            <th>หัวข้อคอลัมน์ 2</th>
        </tr>
    </thead>
    <tbody>
        <tr>
            <td>ข้อมูล 1</td>
            <td>ข้อมูล 2</td>
        </tr>
    </tbody>
</table>

แท็กฟอร์ม (Form Tags)

<form action="/submit" method="post">
    <label for="name">ชื่อ:</label>
    <input type="text" id="name" name="name">
    
    <label for="email">อีเมล:</label>
    <input type="email" id="email" name="email">
    
    <input type="submit" value="ส่งข้อมูล">
</form>

HTML5 และคุณสมบัติใหม่

HTML5 เป็นเวอร์ชันล่าสุดของ HTML ที่เพิ่มคุณสมบัติใหม่ๆ มากมาย:

แท็กโครงสร้างใหม่ (New Structural Tags)

  • <header>: ส่วนหัวของเอกสารหรือส่วน
  • <nav>: ส่วนนำทาง
  • <main>: เนื้อหาหลักของเอกสาร
  • <section>: ส่วนของเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกัน
  • <article>: เนื้อหาที่เป็นเอกเทศ
  • <aside>: เนื้อหาที่เกี่ยวข้องแต่ไม่ใช่เนื้อหาหลัก
  • <footer>: ส่วนท้ายของเอกสารหรือส่วน
  • <figure> และ <figcaption>: สำหรับรูปภาพและคำอธิบาย

แท็กมัลติมีเดีย (Multimedia Tags)

  • <audio>: สำหรับเล่นไฟล์เสียง
  • <video>: สำหรับเล่นไฟล์วิดีโอ
  • <canvas>: สำหรับวาดกราฟิกด้วย JavaScript
  • <svg>: สำหรับกราฟิกแบบเวกเตอร์

ประเภทอินพุตใหม่ (New Input Types)

HTML5 เพิ่มประเภทอินพุตใหม่ๆ สำหรับฟอร์ม:

  • email: สำหรับอีเมล
  • url: สำหรับ URL
  • number: สำหรับตัวเลข
  • range: สำหรับช่วงค่า
  • date, time, datetime-local: สำหรับวันที่และเวลา
  • color: สำหรับเลือกสี
  • search: สำหรับช่องค้นหา
  • tel: สำหรับเบอร์โทรศัพท์

แนวทางการใช้ HTML ที่ดี

การใช้ HTML ที่ดีควรคำนึงถึงสิ่งต่อไปนี้:

1. ใช้ HTML เชิงความหมาย (Semantic HTML)

ใช้แท็กที่สื่อความหมายของเนื้อหา เช่น <header>, <nav>, <main>, <article> แทนที่จะใช้ <div> ทั้งหมด

2. ใช้ Accessibility ที่ดี

ทำให้เว็บไซต์เข้าถึงได้โดยผู้ใช้ทุกคน รวมถึงผู้ที่มีความบกพร่องทางการมองเห็น:

  • ใช้ attribute alt สำหรับรูปภาพ
  • ใช้ <label> สำหรับฟอร์ม
  • ใช้โครงสร้างหัวข้อ (<h1> ถึง <h6>) อย่างเหมาะสม
  • ใช้ ARIA roles เมื่อจำเป็น

3. แยก HTML, CSS, และ JavaScript

แยกโครงสร้าง (HTML), การแสดงผล (CSS), และพฤติกรรม (JavaScript) ออกจากกัน:

  • ใช้ไฟล์ CSS ภายนอกแทนที่จะใช้ inline styles
  • ใช้ไฟล์ JavaScript ภายนอกแทนที่จะใช้ inline scripts

4. ตรวจสอบความถูกต้อง (Validation)

ตรวจสอบความถูกต้องของ HTML ด้วยเครื่องมือตรวจสอบความถูกต้องของ W3C เพื่อให้แน่ใจว่าโค้ดของคุณเป็นไปตามมาตรฐาน

ลิงก์ไปยังหน้าที่เกี่ยวข้อง

  • HTML BR - การใช้แท็ก <br> ในการขึ้นบรรทัดใหม่
  • HTML NBSP - การใช้ &nbsp; สำหรับช่องว่างที่ไม่แตก
  • CSS - การใช้ CSS ในการจัดรูปแบบ HTML